ดีวีเอสยู (DVSU) สโมสรฟุตบอลเยาวชนขนาดเล็กในอูเทร็คซ์ มีนโยบายที่พวกเขาอนุญาตให้เด็กอายุ 6 ขวบขึ้นไปเท่านั้น ที่จะเข้าร่วมสโมสรได้
แต่มันค่อนข้างยากที่จะได้เข้าไป แม้ว่าคุณจะอายุเท่าไรก็ตาม มีเด็กประมาณ 50 คนเข้าแถวต่อคิว และมีเพียง 10 คนเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาตให้เข้ามาร่วมสโมสร แต่ในเดือนพฤษภาคม 2006 พวกเขาได้ยกเว้นกฏเกณฑ์ดังกล่าวให้กับเด็กฝาแฝด เยอร์เรียน และควินเตน ทั้งคู่อายุแค่ 4 ขวบ
“พวกเขามีพี่ชาย ดีแลน” Twan Lenders โค้ชที่ดูแลกลุ่มเด็กอายุน้อยของดีวีเอสยูกล่าว “เขาอยู่ในลิสต์ ในช่วงท้ายฤดูกาล ผมได้จัดการฝึกซ้อมแบบสนุกๆ เพื่อให้ผู้ปกครองได้รู้จักกับสโมสร แล้วมีข่าวลือว่าดีแลน มีพี่น้องฝาแฝดที่เก่งมาก เราก็เลยชวนพวกเขามาด้วย”
“ผมมีเด็ก 30-40 คนในการซ้อมนี้ ผมให้ลูกบอลกับพวกเขาทุกคน เด็กคนบางคนจะล้มเมื่อพวกเขาพยายามที่จะเตะมัน บางคนก็ก้มไปหยิบบอลด้วยมือ แต่ควินเตน และเยอร์เรียน ยืนอยู่ด้านข้าง ดูขี้อาย และตัวค่อนข้างเล็ก แต่พวกเขาเป็นกลุ่มเดียวที่เริ่มเล่นฟุตบอล”
นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ Lenders ให้ความสนใจ และเห็นได้ชัดว่าเด็กทั้งคู่เหนือกว่าเด็กคนอื่นในระบบเยาวชนของ DVSU
“ผมบอกกับโค้ชคนอื่น เราต้องดึงพวกเขาเข้ามา เพราะไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไปอยู่กับสโมสรอื่น เราตัดสินใจที่จะไม่ทำตามนโยบายของตัวเอง นี่เป็นโอกาสที่เราจะปล่อยไปไม่ได้เลย นั่นคือจุดเริ่มต้นของทั้งหมด” Lender กล่าว
จากจุดเริ่มต้น ผ่านมาเกือบ 17 ปี ตอนนี้ เยอร์เรียน ทิมเบอร์ กำลังจะย้ายจากอาแจ็กซ์ไปร่วมทีมอาร์เซน่อลด้วยค่าตัว 40 ล้านยูโร และเตรียมเข้ารับการตรวจร่างกาย ก่อนที่จะเป็นแข้งใหม่ของทีมดังจากเกาะอังกฤษ
แน่นอนว่าการตัดสินใจย้ายออกจากอาแจ็กซ์ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทิมเบอร์ผูกพันกับสโมสรมาตั้งแต่เด็ก แต่ถ้าหากคุณได้ฟังคนที่รู้จักกับเขามานาน คุณจะทราบว่าการย้ายทีมครั้งนี้ของเขา เป็นการเดินทางที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
“เรากำลังเดินไปที่สนาม และมีบรรดาผู้ปกครองของทีมฝ่ายตรงข้าม กำลังหัวเราะเมื่อเห็น ควินเตน, เยอร์เรียน และดีแลน ทั้งสามคนตัวเล็กมาก ดังนั้นเหล่าบรรดาผู้ปกครองจึงพูดว่าในที่สุด เด็กๆ ของเราก็จะเอาชนะได้สักที”
คุณสามารถเดาได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ในช่วงพักครึ่งเวลาแรก DVSU นำคู่แข่ง 5-0 เยอร์เรียนทำสามประตู และควินเตน ยิงสองประตู
ในไม่ช้า แมวมองก็เข้ามาจับตาอย่างใกล้ชิด ทั้งเอฟซี อูเทร็คซ์ ที่อยู่ในเมืองเดียวกัน และยังมีตัวแทนจากอาแจ็กซ์ กับเฟเยนูร์ด สองทีมดังของประเทศด้วย ท้ายที่สุดพวกเขาเลือกที่จะย้ายไปเข้าอะคาเดมี่ของสโมสรร็อตเตอร์ดัม หลังจากอยู่กับ DVSU ได้สองปี และเมื่ออายุ 14 พวกเขาย้ายไปอยู่กับอาแจ็กซ์
แน่นอนว่าพวกเขาทั้งคู่นำหน้าเพื่อร่วมทีมเมื่อสมัยที่เป็นเด็ก แต่สิ่งต่างๆ ก็ไม่ได้ราบรื่นไป แต่พวกเขาไม่ใช่คนที่พิเศษ โรนัลด์ เดอ บัวร์ ที่เคยเป็นโค้ชเยาวชนของสองฝาแฝดในทีมเยาวชนของอาแจ็กซ์กล่าวว่า: “พวกเขาไม่ใช่คนพิเศษ พวกเขามีคุณภาพ แต่ไม่ใช่คนที่มีพรสวรรค์มากที่สุด ตอนที่ผมเห็นพวกเขาครั้งแรก ผมคิดว่าพวกเขามีคุณภาพ แต่พวกเขาวิ่งไปกับบอล และเสียบอล แต่เพราะความแข็งแกร่งและความเร็ว ทำให้พวกเขาแย่งบอลคืนกลับมาได้ พวกเขาเหมือนรถบั๊มพ์”
“จุดเด่นของพวกเขาคือความดุดันเวลาที่ไม่มีบอล ในสายตาของผม นั่นคืออาวุธ ทั้งคู่เล่นกองกลางในตอนนั้น แต่พวกเขาพวกเขามีทั้งความเร็ว และความแข็งแกร่ง นั่นทำให้พวกเขาสามารถเล่นได้ทุกที่ สามารถใช้งานได้หลากหลาย”
นี่เป็นบทความที่เกี่ยวกับเยอร์เรียน แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะแย่งเขาออกจากฝาแฝด ควินเตน ได้
ฝาแฝดทั้งสองคนสนิทกันมาก พวกเขาไม่เพียงแค่อยู่บ้านเดียว แต่ยังนอนในห้องนอนเดียวกันอีกด้วย และเป็นบ้านของครอบครัว พวกเขามีพี่ชายอีก 3 คน คือ ดีแลน ที่ตอนนี้เล่นให้กับเอฟซี อูเทร็คซ์ อีกสองคนคือ คริส และซาเมียร์ ทั้งหมดได้รับการดูแลจาก Marilign ผู้เป็นแม่ ซึ่งภารกิจที่ยากจะปฏิเสธคือการดูการเล่นของลูกชายทั้งหมดของเธอ
“พวกเขาเป็นคนสนุกสนาม” วินสตัน โบการ์เด้ อดีตกองหลังชื่อดังของอาแจ็กซ์ และเคยเป็นโค้ชของสองพี่สองที่อาแจ็กซ์ “พวกเขาอยู่ด้วยกันตลอด และพวกเขาก็เล่นด้วยกันเยอะมากในสนาม พวกเขามองหากันและกันเสมอ”
คี วาน วูเดอเรน เฮดโค้ชของสโมสรฮีเรนวีนในปัจจุบัน เคยเป็นโค้ชของสองพี่น้องในทีมชาติเนเธอร์แลนด์ที่คว้าแชมป์ยูโร U17 ในปี 2018 เขาเล่าให้ฟังว่า “ตั้งแต่เริ่มต้น เยอร์เรียน ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าควินเตน ทั้งความเป็นมืออาชีพ ความดุดันในสนาม การรับรู้อันตราย ดูเหมือนว่าเยอร์เรียนจะนำหน้าควินเตนอยู่เล็กน้อย และไม่เพียงแค่พี่น้องฝาแฝดของเขา แต่รวมถึงผู้เล่นคนอื่นๆ ที่อายุเท่ากันด้วย”
ควินเตน ออกจากอาแจ็กซ์ในปี 2021 เพื่อเซ็นสัญญากับสโมสรอูเทร็คซ์ หลังจากหนึ่งฤดูกาลเขาย้ายไปอยู่กับเฟเยนูร์ด และเพิ่งคว้าแชมป์เอเรดิบิซี่ลีกเมื่อฤดูกาลก่อนกับ อาร์เน่ สล็อต ในเวลาเดียวกันเยอร์เรียน ก็ได้ก้าวขึ้นไปเล่นกับทีมชุดใหญ่ของอาแจ็กซ์
ในเดือนมีนาคม 2020 ตอนนั้นเอริค เทน ฮาก กำลังเผชิญหน้ากับปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บก่อนจะไปเยือนฮีเรนวีน และเขาต้องการเซนเตอร์แบ็คฝั่งขวา โบการ์เด้ ที่เป็นหนึ่งในสต๊าฟโค้ชของเทน ฮาก และเคยทำงานร่วมกับสองพี่น้องทิมเบอร์ ได้เสนอชื่อของ เยอร์เรียน
โบการ์เด้กล่าว “เขาต้องคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และผมต้องโน้มน้าวเขา ผมบอกว่า ผมรู้ว่าเขาสามารถเล่นได้ ผมรู้จักเขาเป็นอย่างดี ผมพยายามที่จะโน้มน้าวเอริค ให้เชื่อมั่นในตัวเยอร์เรียน โชคดีที่เขาฟัง และเราชนะ 3-1 ในเกมส์นั้น เยอร์เรียนเล่นได้ดีมาก”
ทางทฤษฏีแล้ว มันควรเป็นการเริ่มต้นของสิ่งต่างๆ แต่เมื่อมีโควิด และลีกสูงสุดของเนเธอร์แลนด์ถูกยกเลิก อาแจ็กซ์ที่นำเป็นจ่าฝูงในตอนนั้น ได้แชมป์ลีกในฤดูกาล 2019/20 ซึ่งเขาได้ลงเล่นไปแค่นัดเดียวเท่านั้น
แต่หลังจากที่ เซอร์คิโอ เดสต์ ย้ายไปบาร์เซโลน่าในซัมเมอร์นั้น ทิมเบอร์ได้รับเสื้อหมายเลข 2 แม้ว่าจะใช้เวลาอยู่เล็กน้อย ก่อนที่เขาจะขึ้นมายึดตำแหน่ง 11 ตัวจริงของทีมได้แบบถาวรในช่วงต้นปี 2021
เขาสลับตำแหน่งไปมาระหว่างเซนเตอร์แบ็ค และแบ็คขวาในช่วงแรก ก่อนที่จะมาจับคู่ได้อย่างลงล็อกกับ ลิซานโดร มาร์ติเนซ กองหลังทีมชาติอาร์เจนติน่า ที่เวลาอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วนตำหนิเดียวของเขาคือเรื่องความสูง เป็นคำถามเดียวที่ลิซานโดร มาร์ติเนซ เจอเมื่อมาเล่นในอังกฤษ
เขาเพิ่งอายุ 22 ปีไปเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน เขามีส่วนสูง 175 หรือ 178 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับแหล่งข้อมูลที่คุณพบ แต่ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขไหน ก็เป็นปัญหาสำหรับผู้เล่นในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็คระดับท็อป ที่ถือว่าเขาไม่ได้สูงมากนัก ความกังวลเพิ่มมากขึ้นในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของแชมเปี้ยนลีก ฤดูกาล 2021/22 กับเบนฟิก้า เมื่อ ดาร์วิน นูเนซ ที่มีส่วนสูง 6 ฟุต 2 นิ้ว (187 เซนติเมตร) ทะยานขึ้นโขกเหนือกว่าทิมเบอร์ และส่งให้อาแจ็กซ์กระเด็นตกรอบ
“เขาต้องเล่นให้ฉลาด เขาต้องคิดล่วงหน้าไป 2-3 ขั้น พี่ชายของผม (แฟร้งค์ เดอ บัวร์) ก็เล่นในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็ค เขาไม่ใช่คนตัวใหญ่ (180 เซนติเมตร) แต่เขาเป็นคนที่โหม่งบอลดีมาก มองไปที่มาร์ติเนซ ทุกคนคิดว่าเขาตัวไม่สูงพอ หรือไม่แข็งแกร่งพอ แต่เขาก็เป็นหนึ่งในกองหลังตัวหลักที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดังนั้นผมคิดว่าทิมเบอร์สามารถรับมือได้” โรนัลด์ เดอ บัวร์ กล่าว
ความสามารถในการปฏิบัติตามคำแนะนำที่รวดเร็วก็สามารถช่วยได้เช่นกัน เรื่องนี้ ฟาน บูเดอเรน อธิบายว่า: “เขาเป็นผู้เล่นที่เล่นเป็นทีม มีทักษะทางเทคนิคสูง และมีความมั่นใจสูง และหนึ่งในแง่ที่ดีที่สุดคือการรวมทุกอย่างไว้ด้วยกัน คือการอ่านเกมส์ของเขา เขารู้วิธีป้องกัน เขารู้วิธีโจมตี เขารู้วิธีหาช่องว่าง เขารู้วิธีเผชิญหน้ากับคู่แข่งในการเพลสซิ่ง ผู้เล่นบางคนคุณต้องบอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่เขาเป็นคนที่เข้าใจทุกอย่างได้รวดเร็ว เขาผสมผสาน ความสามารถด้านเทคนิค กับความคิดด้านแท็กติกในสนาม นั่นเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับผู้เล่นสมัยใหม่”
“เขาฉลาดมากๆ ในการดวลแบบหนึ่งต่อหนึ่ง” โบการ์เด้ ที่เคยช่วยให้ทิมเบอร์พัฒนาเรื่องลูกกลางอากศ เพื่อชดเชยจุดอ่อนในเรื่องส่วนสูงของเขา “อันดับแรก คุณต้องมองที่ตำแหน่งของตัวเอง แล้วดูเรื่องจังหวะเวลาว่าเป็นอย่างไร? บอลจะมาจากทางไหน? มันเป็นโยนบอลมาตรงๆ หรือไปที่มุม? ผมชอบที่จะฝึกซ้อม ราวกับว่าพวกเขากำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเจอในเกมส์ เพื่อให้พวกเขาเข้าใจได้เร็วขึ้น”
ข้อดีมีมากกว่าข้อเสีย สำหรับทิมเบอร์ และด้วยการเป็นผลผลิตของระบบอาแจ็กซ์ เขาชอบที่จะพาบอลจากแนวรับขึ้นมาตรงกลางสนาม ซึ่งโบการ์เด้บอกว่า ทิมเบอร์ คือหนึ่งในผู้เล่นที่เก่งกาจที่สุดในเรื่องนั้นเลย เขาทั้งเร็ว และแข็งแกร่ง ตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขาคือเซฯเตอร์ แต่เขาสามารถเล่นแบ็คขวาได้ด้วย รวมถึงการขยับไปเล่นตรงกลาง
แต่จากที่เราได้คุยกับ เดอ บัวร์ และโบการ์เด้ และรวมถึงเคยได้คุยกับ เทก ฮาก ก่อนหน้านี้ คุณภาพที่ดีที่สุดของทิมเบอร์อยู่ระหว่างหูของเขา
“เขาไม่เคยกลัว” เดอ บัวร์กล่าว “ผมจำได้ว่าเกมส์แรกในแชมเปี้ยนลีก มันดูเหมือนว่าเขาผ่านการลงสนามมาเป็นร้อยนัดแล้ว เขาเล่นแบบไม่มีความกลัว ผมจำได้ว่าแสร้งจะส่งบอลกลับไปหาผู้รักษาประตู ก่อนที่จะโยกหลอกและส่งไปที่ตรงกลางแทน ความมั่นใจนั่นน่าเหลือเชื่อ แม้ว่าจะมีคู่แข่งไล่ตามเข้ามา เขายังรักษาความนิ่งไว้ได้”
มีอีก 2-3 ตัวอย่างในเรื่องนี้ จากความสำเร็จในฟุตบอลยูโร ทีมชาติเนเธอร์แลนด์คว้าแชมป์ แต่ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษทั้งรอบ 8 ทีมสุดท้าย, รอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งทิมเบอร์ รับหน้าที่ยิงจุดโทษทั้งสามครั้ง
ฟาน วอนเดเรน เล่าให้เราฟังว่า: “รอบก่อนรองชนะเลิศ เราพบกับไอร์แลนด์ คุณภาพของพวกเขาคือการทำงานเป็นทีม และจิตใจนักสู้ พวกเขามีกองหน้าที่ดีในแดนหน้า ดังนั้นพวกเขาจึงเน้นตั้งรับ และรอหาโอกาสในการสวนกลับ ด้วยธรรมชาติของคนดัตซ์ เรามักจะชอบครองบอลเยอะๆ แล้วเมื่อคุณมีความมั่นใจเกินไป คุณไม่เห็นอันตราย และคู่ทำประตูได้จากหนึ่งในการสวนกลับ 2 ครั้งของพวกเขา ผมเลยสั่งให้เยอร์เรียน คอยตามประกบกองหน้าของไอร์แลนด์โดยเฉพาะ”
“ผมบอกเขาว่าเมื่อเราได้ครองบอล ให้แน่ใจว่านายปิดช่องว่างด้านหลัง เพื่อที่ไม่ให้โดนสวนกลับ เขาทำหน้าที่ได้ดีจริงๆ มันเป็นตัวอย่างที่ดีของเขาในเรื่องความรับผิดชอบ และตระหนักว่าอันตรายอยู่ตรงไหน”
ทิมเบอร์เคยให้สัมภาษณ์เมื่อไม่นานมานี้ เขาเคยบอกว่าสิ่งที่เขาต้องการปรับปรุงคือความเป็นผู้นำ แต่เทน ฮาก เคยบอกเอาไว้ก่อนที่เขาจะย้ายไปคุมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาบอกว่า: “เขาคงจะไม่ได้เป็นผู้นำของอาแจ็กซ์ชุดใหญ่ในทันที แต่เขากล้าลุกขึ้นมาพูด และไม่มีความเขินอายในห้องแต่งตัว เหล่านี้คือคุณสมบัติสำคัญ”
“เขาไม่จำเป็นต้องเป็นกัปตันทีมเพื่อเป็นผู้นำ” โบการ์เด้กล่าว “เขาเป็นผู้นำโดยธรรมชาติ เขาแสดงให้เห็นจากเกมส์การเล่นของเขา และแสดงความเป็นผู้นำออกมา ถ้าคุณทำอะไรแย่ๆ เขาจะเข้ามาแก้ไขให้คุณ เพราะเขาไม่ต้องการเป็นผู้แพ้”
เยอร์เรียน ได้รับคำชื่นชอบจากทั้ง เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ เซนเตอร์แบ็คทีมชาติเนเธอร์แลนด์และลิเวอร์พูล เคยกล่าวชื่นชมทิมเบอร์เมื่อปีก่อนว่า: “ผมไม่เคยเก่งเท่านี้ในวัยเดียวกับเขา” เดลีย์ บลินด์ อดีตนักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด “ผมไม่จำเป็นต้องอธิบาย ว่าเขาดีแค่ไหน”
ในความเป็นจริง มันค่อนข้างยากที่จะหาใครที่หาคำพูดไม่ดีเกี่ยวกับ เยอร์เรียน, ควินเตน คนใดคนหนึ่ง
สองพี่น้องยังคงกลับไปที่สโมสร DVSU เป็นประจำเพื่ดูการแข่งขัน พวกเขาพร้อมที่จะแจกลายเซ็นต์ และถ่ายรูปกับทุกคนเสมอ สมาคมฟุตบอลเนเธอร์แลนด์ มีวันประจำปีที่พวกเขาให้ความสำคัญกับฟุตบอลสมัครเล่น และบุคคลที่ทำงานอาสาสมัคร สำหรับปีนี้ทิมเบอร์ สวมเสื้อของ DVSU ผ่านทางโซเซียลมีเดีย
นี่คือสิ่งที่น่ารัก แต่สำหรับแฟนบอลของอาร์เซน่อลทั้งหมดสนใจเกี่ยวกับสิ่งที่เขาจะทำในสนาม โบการ์เด้ทิ้งท้ายว่า: “เขายังอายุน้อย เขาเริ่มต้นได้ดีที่อาแจ็กซ์ และตอนนี้ ผมคิดว่าเขาพร้อมที่จะก้าวไปยังขั้นถัดไป ในระดับที่สูงกว่า ผมคิดว่าเขาสามารถเป็นหนึ่งในกองหลังที่ดีที่สุดในโลก”