อาร์เซน่อล ชุดดังกล่าวคุมทัพโดย อาร์แซน เวนเกอร์ ลงเล่น 38 นัดตลอดฤดูกาล 2003/04 โดยเป็นการชนะ 26 นัด เสมอ 12 นัด และ “ไม่แพ้” แม้แต่นัดเดียว
มีหลายทีมที่เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกด้วยทีมที่ชุดที่แข็งแกร่งมากๆ ไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี, แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือกระทั่ง ลิเวอร์พูล แต่ทีมเหล่านี้ก็ไม่เคยคว้าแชมป์แบบไร้พ่ายได้แบบ อาร์เซน่อล
อะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ปืนใหญ่ชุดดังกล่าวกลายเป็นทีมไร้เทียมทาน “น้าจิล” จะมาบอกเล่าให้ฟัง
จิลแบร์โต้ ซิลวา คือแข้งคนสำคัญของ อาร์เซน่อล ชุดนั้นที่เล่นในตำแหน่งกลางรับคู่ร่วมกับ ปาทริค วิเอร่า ทั้งสองจับคู่กันได้อย่างลงตัวจนกลายเป็นหนึ่งในคู่กองกลางที่ดีที่สุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก
“น้าจิล” ที่เพิ่งฉลองเบิร์ธเดย์ครบ 45 ปี เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ที่ผ่านมา เป็นตัวตัดเกมที่งาน “เนี้ยบ” สุดๆ จังหวะเข้าบอลแม่นยำ ใช้สายตาในการอ่านเกมเพื่อชิงตัดบอลโดยที่ไม่จำเป็นต้องฟาวล์พร่ำเพรื่อ ทำหน้าที่เหมือนเป็น “กำแพง” ที่คอยปกป้องแนวรับชั้นแรกจนได้ฉายาว่า “กำแพงล่องหน” (the invisible wall)
ตลอดอาชีพค้าแข้งทั้งกับ อาร์เซน่อล และอีกหลายทีมรวมถึงทีมชาติบราซิลเกือบร้อยนัด จิลแบร์โต้ ไม่ค่อยทำผิดพลาดในสนามมากนัก แต่มีครั้งหนึ่งที่เจ้าตัวจดจำว่าพลาดอย่างแรงนั่นคือ ไม่ใส่ “สนับแข้ง” ลงซ้อมกับ อาร์เซน่อล!
“ผมเคยลองอยู่ครั้ง แต่พอเห็นทุกคนซ้อมกันแล้ว ผมยังไม่พร้อมจะลงเล่นโดยไม่มีมัน มันไม่ปลอดภัยเลย” จิลแบร์โต้ ซิลวา เริ่มเล่า
“การซ้อมที่ อาร์เซน่อล เข้มข้นจริงจังมาก ผมเชื่อว่านี่เป็นสิ่งที่ทำให้เราไร้พ่าย เป็นเพราะความคิดแบบนี้เลย การฝึกซ้อมของเราไม่ต่างจากการแข่งจริง และในการซ้อมหลายครั้งก็หนักกว่าที่เราแข่งจริงเสียอีก”
“มันยากกว่าเพราะเราไม่เคยยั้งเลยเวลาต้องเข้าปะทะกัน ไม่มีใครติดเบรกกันเลย บางครั้งมันก็น่ากลัวมาก ทุกการซ้อมเป็นเหมือนสนามรบ”
“คุณต้องอยู่ในระดับสูงที่สุดของตัวเองเพราะมันคือจุดที่ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มต้นสำหรับเรา มันคือจุดที่พวกเราเตรียมพร้อมสำหรับทุกๆ เกมและมันคือจุดที่ อาร์แซน ได้รู้ว่านักเตะแบบไหนที่เขาสามารถพึ่งพาได้”
การซ้อมอันดุเดือดกลายเป็นเรื่องปกติของยุคไร้พ่าย และ “น้าจิล” ก็เห็นได้ตั้งแต่ครั้งแรกๆ เขาสรุปว่า “ความตึงเครียดในการซ้อมเกิดขึ้นเสมอในทุกวัน”
“มาร์ติน (คีโอว์น) พูดไม่หยุด ขณะที่ เยนส์ (เลห์มัน) ก็ตะโกนสั่งจากข้างหลังอยู่ตลอด ผมจำได้ว่าครึ่งหนึ่งเขาสั่งให้ เธียร์รี่ (อองรี) ลงมาและตามประกบตัวให้ด้วย ก่อนที่ เธียร์รี่ จะตอบว่า ‘เยนส์ หยุดก่อน! มันยังเร็วไป’
“แต่ทุกครั้งก็จบด้วยการหัวเราะเพราะทุกคนมีแนวคิดกันแบบนี้ ขณะที่ เยนส์ ก็โฟกัสอยู่เสมอตั้งแต่เริ่มต้น สำหรับเขาแล้ว การฝึกซ้อมคือการแข่งขันจริง”
“หากมีใครมาล้อมหน้าล้อมหลังเขาในจังหวะเตะมุม เขาก็จะผลักออกไปเพราะเขาคิดแบบเดียวกับการแข่งจริง หากมีใครพยายามยั่วโมโหเขาอีก เขาก็จะผลักกระเด็นกระเด็นกลับไปหมด”
จิลแบร์โต้ เล่าต่อว่า “ผมจำได้ครึ่งหนึ่งที่ โคโล่ ตูเร่ และ ปาสกาส ซีก็อง มีเรื่องทะเลาะกันตอนซ้อม พวกเขาเริ่มจากโต้เถียงกันก่อนและมีคนนึงจ้วงหมัดใส่อีกคน เราทุกคนก็เข้าไปห้ามทั้งคู่ จากนั้น อาร์แซน ก็สั่งให้ทั้งสองเข้าไปในห้องแต่งตัว”
“ผมบอกว่า ‘นี่ไม่ดีแน่เพราะเดี๋ยวสองคนก็ไปซัดกันต่อข้างในอีก แต่พอผมเข้าไปในห้องแต่งตัว ตูเร่ กับ ซีก็อง ก็นั่งหัวเราะเอิ๊กอ๊ากด้วยกันซะงั้น นี่คือแนวคิดของพวกเรา เราอาจมีปัญหากันตอนซ้อม แต่เราก็จัดการกันได้ก่อนกลับบ้าน”
“ผมคิดว่าในทีมนี้ ทุกคนต่างคอยปกป้องกันและกัน ทุกการซ้อมหนักมากๆ แต่เมื่อถึงเวลาที่เราลงสนามจริงและมีใครสักคนมีปัญหากับคู่แข่ง คนอื่นๆ จะเข้าไปช่วยเสมอ”
“แน่นอนว่าในการซ้อมบางครั้งก็มีการปะทะหนักๆ เกิดขึ้นและมีการโต้เถียงกัน แต่ท้ายที่สุดของวันนั้น ทุกคนก็เคารพกันและกันและเราก็ปกป้องกัน”
ด้วยการซ้อมที่เข้มข้นในทุกวันทำให้การแข่งขันจริงก็ดุดันและหนักหน่วงตามไปด้วยจนกลายเป็นเครื่องหมายการค้าของ อาร์เซน่อล ในยุคนั้น มีใบเหลือง-ใบแดงเกิดขึ้นตลอด ปาทริค วิเอร่า คนเดียวได้ใบเหลืองไปถึง 10 ใบในฤดูกาลแชมป์ไร้พ่าย
จิลแบร์โต้ ซิลวา ย้ายจาก อัตเลติโก มิเนโร่ ในลีกบราซิลมาร่วมทีม อาร์เซน่อล หลังจบฟุตบอลโลก 2002 ที่เขาช่วยให้ทัพแซมบ้าคว้าแชม์โลกมาครอง และเปิดตัวกับปืนใหญ่ได้ยอดเยี่ยมด้วยการทำประตูชัยเอาชนะ ลิเวอร์พูล 1-0 ได้แชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ก่อนเริ่มฤดูกาล
เดือนต่อมา เขาทำประตูที่เร็วที่สุดของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในตอนนั้นหลังซัดตุงตาข่ายพีเอสวีตั้งแต่ 21 วินาทีแรกของการแข่งขัน และเป็นนักเตะ อาร์เซน่อล คนแรกที่ยิงประตูในเกมทางการที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในนัดเปิดสนามที่พบ แอสตัน วิลล่า ของฤดูกาล 2006/07
“ช่วงเวลาของผมกับ อาร์เซน่อล นั้นมหัศจรรย์” จิลแบร์โต้ ซิลว่า เล่าต่อถึงความทรงจำทั้งหมดกับทีม “นับตั้งแต่ที่ผมมาถึงไปจนถึงวันจากลา มันเต็มไปด้วยความชื่นมื่น”
“ผมรู้สึกสบายใจกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้รับจาก อาร์เซน่อล ช่วงเวลาของผมเต็มไปด้วยความทรงจำที่ดีที่ผมได้เรียนรู้ผู้คนมากมายที่ครอบครัว อาร์เซน่อล มันเป็นความรู้สึกที่จะไม่มีวันลืม”
จิลแบร์โต้ ซิลวา เล่นให้ อาร์เซน่อล 6 ฤดูกาลเต็ม ลงสนามทั้งหมด 244 นัด ได้แชมป์ไร้พ่าย 1 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย และพาทีมเข้าชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 1 ครั้ง จากนั้นจึงย้่ายไปร่วมทีม พานาธิไนกอส ในลีกกรีซ ก่อนสุดท้ายแขวนสตั๊ดกับทีมเก่า อัต.มิเนโร่ ในปี 2013