เจาะแผนปืนใหญ่กับการเริ่มต้นอีกครั้ง

เจาะแผนปืนใหญ่กับการเริ่มต้นอีกครั้ง

เจาะแผนปืนใหญ่กับการเริ่มต้นอีกครั้ง หลังเริ่มต้นฤดูกาลได้น่าผิดหวังด้วยความปราชัย 3 นัดรวดและรั้งบ๊วยของตารางก่อนได้เบรกทีมชาติเป็นระฆังช่วยชีวิตเอาไว้ อาร์เซน่อล เตรียมนับหนึ่งใหม่อีกครั้งด้วยขุมกำลังที่ต่างจากเดิม

มิเกล อาร์เตต้า ปิดท้ายตลาดซัมเมอร์ด้วยการดึงตัว ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ กองหลังทีมชาติญี่ปุ่นมาร่วมทีมเป็นรายสุดท้ายต่อจาก นูโน่ ตาวาเรส, อัลเบิร์ต แซมบี้ โลคองก้า, เบน ไวท์, อารอน แรมส์เดล และ มาร์ติน โอเดการ์ด

นัดต่อไปที่จะพบ นอริช ซิตี้ ในวันเสาร์นี้จะเป็นครั้งแรกที่ผู้เล่นใหม่ทั้งหมดพร้อมลงสนาม และเหมือนเป็นสัญญาณบอกว่าทีมพร้อมรีสตาร์ตเครื่องใหม่กันอีกรอบ

เบน ไวท์ ได้เล่นนัดเปิดสนามก่อนติดโควิด-19 แต่ตอนนี้หายดีแล้วและกลับมาฟิตสมบูรณ์ลงฝึกซ้อมได้เต็มที่

ขณะที่ มาร์ติน โอเดการ์ด, แซมบี้ โลคองก้า และ นูโน่ ตาวาเรส (โปรตุเกสชุดเล็ก) ก็ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บติดตัวกลับมาจากการไปเล่นทีมชาติในช่วงเบรก 2 สัปดาห์

มิเกล อาร์เตต้า จะจัดทัพอย่างไรทั้งในเกมนัดต่อไปและระยะยาวตลอดฤดูกาลนี้หลังผู้เล่นใหม่พร้อมเป็นตัวเลือกทั้งหมด

ระบบการเล่น

แผนการเล่นที่ มิเกล อาร์เตต้า ใช้บ่อยนับตั้งแต่เข้ามาคุมทีมในปลายปี 2019 คือ “4-2-3-1” รองลงมาคือ “3-4-3”

2 นัดแรกในฤดูกาลนี้ อาร์เตต้า เริ่มด้วยระบบแบ็กโฟร์ ก่อนปรับเป็นเซนเตอร์ 3 คนในเกมพบ แมนฯ ซิตี้ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้เกมรับดีขึ้นหลังโดนเรือใบทะลวงไปอีก 5-0

คาดว่า อาร์เตต้า น่าจะกลับมาใช้ระบบกองหลัง 4 คนอีกครั้งโดยเฉพาะเกมในนัดต่อที่จะพบกับ นอริช ซิตี้ ที่ตามชื่อชั้นเกรดบอลแล้ว อาร์เซน่อล ยังดูเหนือกว่าและได้เล่นกับการเล่นในบ้าน

เจาะแผนปืนใหญ่กับการเริ่มต้นอีกครั้ง

11 ตัวจริงที่มีความเป็นไปได้

ผู้รักษาประตู 

แบรนด์ เลโน่ นายทวารทีมชาติเยอรมันยังน่าจะได้โอกาสเป็นมือหนึ่งต่อไปในช่วงนี้ แต่ อาร์เตต้า ก็เปรยๆ ว่าการมาของ อารอน แรมส์เดล จะไม่ได้เป็นเพียงมือสอง แต่พร้อมเบียดตัวจริงทุกเมื่อ

เลโน่ เสียไป 9 ประตูใน 3 นัดแรก เป็นตัวเลขที่น่าห่วงไม่น้อย อย่างไรก็ตาม ประตูที่เสียส่วนใหญ่ถือว่าหมดสิทธิ์เซฟ

แต่ฤดูกาลที่แล้ว เลโน่ มีจังหวะผิดพลาดให้เห็นเรื่อยๆ การออกบอลด้วยเท้าไม่แม่นยำเท่าที่ควร และไม่ค่อยกระตุ้นทีมมากนัก

นั่นทำให้มีความสุ่มเสี่ยงไม่น้อยที่จะเสียตำแหน่งให้กับ แรมส์เดล ที่หนุ่มแน่นมากกว่าและมีสถิติส่วนตัวในการเซฟที่ยอดเยี่ยม

แบ็กโฟร์ 

คีแรน เทียร์นีย์ ในตำแหน่งแบ็กซ้าย และ เบน ไวท์ ในตำแหน่งเซนเตอร์ฝั่งขวาน่าจะเป็นสองตัวยืนในสี่แนวรับ ส่วน กาเบรียล มากัลเญส ก็น่าจะได้โอกาสในทันทีกับตำแหน่งเซนเตอร์ฝั่งซ้ายหลังหายเจ็บกลับมาเพราะผลงานของ ปาโบล มารี ในช่วงเริ่มต้นฤดูกาลไม่ดีนัก

นั่นเท่ากับว่าเหลือเพียงตำแหน่ง “แบ็กขวา” ที่ยังไม่ลงตัวและตอนนี้มีตัวเลือกอยู่ 3 รายคือ เซดริก โซอาเรส, คาลั่ม แชมเบอร์ส และ ทาเคฮิโระ โทมิยาสึ ที่เพิ่งย้ายมาใหม่ ส่วน เอคตอร์ เบเยริน ย้ายไปร่วมทีม เรอัล เบติส ด้วยสัญญายืมตัว

เซดริก และ แชมเบอร์ส ยังไม่สามารถเป็นที่พึ่งของทีมได้อย่างจริงจังโดยเฉพาะกับฟอร์มนัดล่าสุดที่ แมนฯ ซิตี้ โอกาสจึงเปิดกว้างมากๆ สำหรับ โทมิยาสึ ในการเข้ามายึดตำแหน่งตัวจริง

อาร์เตต้า เลือก โทมิยาสึ มาร่วมทีมเพราะความสามารถที่เล่นได้ในทุกตำแหน่งของเกมรับ

“เขาสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งในแบ็กโฟร์ เขาเล่นได้หมดทั้งระบบแบ็กโฟร์และกองหลังสามคน”

“เขาเพิ่มความหลากหลายให้กับเรา เขามีคุณภาพแตกต่างในตำแหน่งแบ็กขวาและผู้เล่นที่เราติดตามมานาน เขามีคุณภาพที่เราไม่มีในทีมชุดนี้”

“เขาได้ลงเล่นมาตลอด ดังนั้นเขาจึงน่าจะฟิตสมบูรณ์ดี เราประทับใจในตัวเขาและนั่นคือเหตุผลที่เราตัดสินใจเซ็นสัญญา” กุนซือชาวสแปนิชกล่าวถึงแนวรับจากแดนอาทิตย์อุทัย

แม้เพิ่งย้ายมาร่วมทีม แต่กองหลังวัย 22 ปีก็มีคุณสมบัติหลายอย่างดีพอที่จะยึดตำแหน่งแบ็กขวาตัวจริงโดยเฉพาะรูปร่างที่สูงใหญ่ (1.88 ม.) สามารถขยับเข้าไปช่วย เบน ไวท์ (1.82 ม.) รับมือลูกโด่งได้

โทมิยาสึ เป็นนักเตะที่เน้นเกมรับ ไม่ค่อยหลุดตำแหน่ง และเข้าแท็กเกิ่ลได้แม่นยำ ตรงนี้น่าจะช่วยเกมรับ อาร์เซนอล ได้พอสมควรหลังโดนเจาะเป็นว่าเล่นใน 3 นัดแรก

แผงแบ็กโฟร์อาจเป็นชุดนี้

กองกลางตัวกลาง 

โธมัส ปาร์เตย์ ฟิตสมบูรณ์พร้อมกลับมาช่วยทีมอีกครั้งหลังได้รับบาดเจ็บมาตั้งแต่เกมพบ เชลซี ในช่วงปรีซีซั่น

ฤดูกาลที่แล้ว ปาร์เตย์ มีปัญหาบาดเจ็บบ่อยครั้งทำให้ไม่สามารถลงเล่นได้ต่อเนื่อง และแม้จะทำได้ดีในหลายนัด แต่ภาพรวมก็ยังเทียบสมัยที่เล่นให้ แอต.มาดริด ไม่ได้ และในฤดูกาลที่สองนี้ อาร์เตต้า ก็ตั้งความหวังกับ ปาร์เตย์ เอาไว้อย่างมาก

“เขาเป็นผู้เล่นที่ต้องเป็นหนึ่งในผู้นำทีม ต้องเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางและเป็นหนึ่งในแข้งซีเนียร์ที่ต้องประคับประคองและนำทัพผู้เล่นหนุ่มๆ เราขาดตรงนี้ไปในช่วงสำคัญที่ผ่านมา”

ส่วนคู่หูชั่วโมงนี้ต้องเป็น อัลเบิร์ต แซมบี้ โลคองก้า ดาวรุ่งทีมชาติเบลเยียมที่ได้รับชอบไม่น้อยจากฟอร์มช่วงปรีซีซั่นและ 2-3 นัดแรกของฤดูกาลนี้

กรานิต ชาคา ติดโทษแบนจากใบแดงในเกมกับ แมนฯ ซิตี้ และตอนนี้ก็ติดโควิดทำให้ยังต้องกักตัวที่สวิตเซอร์แลนด์ ยังไม่ได้เดินทางมาอังกฤษ ส่วน โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ ที่อยู่กับทีมต่อ มีอาการบาดเจ็บ ลงไม่ได้เช่นกัน

นี่คือโอกาสทองของ แซมบี้ โลคองก้า ในการลงเล่นต่อเนื่องและหากเข้าคู่กับ ปาร์เตย์ ได้ดีก็มีโอกาสยึดตำแหน่งยาวๆ ได้เลย

ปาร์เตย์ พร้อมจับคู่กับ โลคองก้า ในแดนกลาง

กองกลางตัวรุก

มิเกล อาร์เตต้า คว้า มาร์ติน โอเดการ์ด กลับมาร่วมทีมแบบถาวรได้สำเร็จ และกองกลางวัย 22 ปีรายนี้ก็เป็นตัวเลือกอันดับแรกในตำแหน่งตัวทำเกมรุกตรงกลาง

เอมิล สมิธ โรว์ ที่เลือกสวมเสื้อหมายเลข 10 ในบทบาทจอมทัพเต็มตัว อาจต้องโยกไปเล่นด้านข้างซึ่งในหลายครั้งที่ โอเดการ์ด กับ สมิธ โรว์ ลงเล่นพร้อมกันในฤดูกาลที่แล้วก็จะเป็นดาวรุ่งชาวอังกฤษที่ออกไปเล่นริมเส้น

สมิธ โรว์ จะอยู่ฝั่งซ้ายเป็นหลัก ส่วนฝั่งขวาน่าจะเป็น บูคาโย่ ซาก้า ซึ่งทั้งสองคนนี้สามารถสลับตำแหน่งกันได้ตลอด เช่นเดียวกับ นิโกล่าส์ เปเป้ ที่แม้ถูกใช้งานฝั่งขวาเป็นหลัก แต่ก็ได้โยกมาฝั่งซ้ายบ่อยครั้ง

กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ดาวรุ่งทีมชาติบราซิล เป็นอีกคนที่มีโอกาสสอดแทรกในแนวรุก แต่นับตั้งแต่หายเจ็บกลับมา เจ้าตัวยังเค้นฟอร์มเก่งเหมือนฤดูกาลแรกไม่ได้ และแม้มีความมุ่งมั่นที่ได้ใจแฟนๆ แต่การเล่นเป็นทีมยังดูเป็นรอง ซาก้า และ สมิธ โรว์

โอเดการ์ด กับ สมิธ โรว์ ลงปั้นเกมพร้อมกัน

โอเดการ์ด กับ สมิธ โรว์ ลงปั้นเกมพร้อมกัน

หน้าเป้า

ตำแหน่งหน้าเป้ามีทางเลือกทั้ง ปิแอร์-เอเมอริค โอบามเย็อง, อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ และ โฟลาริน บาโลกุน แต่ด้วยตำแหน่งกัปตันทีมและผลงานในอดีต โอบามเย็อง ยังมีภาษีเหนือกว่ากับการได้ลงตัวจริง

ฤดูกาลที่แล้ว ผลงานของ โอบาเมย็อง ดร็อปลงไปพอสมควรเมื่อยิงได้เพียง 15 ประตูจาก 39 นัดในทุกรายการ ขณะที่สองฤดูกาลก่อนหน้าทำได้ 29 ประตูจาก 44 นัด และ 31 ประตูจาก 51 นัด

มีเหตุผลหลายอย่างที่ทำให้ฟอร์มของหัวหอกทีมชาติกาบองไม่เปรี้ยงเหมือนฤดูกาลก่อนหน้านั้นไม่ว่าจะเป็นเหตุผลครอบครัวที่คุณแม่ไม่สบาย ตัวโอบาเองก็มีช่วงป่วยเป็นไข้มาลาเรีย รวมถึงการมาซ้อมสายจนถูกดร็อปเป็นสำรองในเกมกับ สเปอร์ส นอกจากนี้ผลงานโดยรวมของทีมก็เป็นตัวฉุดอีกแรง

ส่วน ลากาแซ็ตต์ ที่ทำได้ 17 ประตูจาก 43 นัดในฤดูกาลที่แล้ว จะเป็นตัวเลือกที่พร้อมเบียด โอบาเมย็อง ลงตัวจริงได้ตลอดเวลาเหมือนฤดูกาลที่แล้วที่ อาร์เตต้า สลับใช้งานบ่อยครั้ง รวมถึงในเวลาที่เล่นร่วมกันก็จะโยก โอบาเมย็อง ออกไปทำเกมฝั่งซ้าย

สองดาวรุ่ง เอ็นเคเทียห์ และ บาโลกุน อาจได้โอกาสไม่มากนักหาก โอบาเมย็อง กับ ลากาแซ็ตต์ ฟิตสมบูรณ์ และยิ่งไม่มีบอลถ้วยยุโรปให้ลงเล่น ก็ยิ่งต้องลุ้นให้ทีมเข้ารอบคาราบาว คัพ ไปได้เรื่อยๆ เพื่อจะได้ลงสนามมากขึ้น

ปิแอร์-เอเมอริค โอบามเย็อง

• เรื่องน่าสนใจ •

เข้าสูตรถอนตัวทีมชาติ ปืนใหญ่มั่นใจ “คิงไค-พี่หมึก” ฟิตทันเยือนบอร์นมัธ หลังเบรกฯ

ไซมอน คอลลินส์ นักข่าวสายอาร์เซน่อลจาก London Evening Standard รายงานข่าวว่า อาร์เซน่อล มั่นใจว่า ไค...