เกมที่เปิดแลกกันสนุกในช่วง 45 นาทีหลัง และจบลงด้วยผลเสมอที่ทำให้ อาร์เซนอล ชิงความได้เปรียบเล็กน้อยก่อนกลับไปตัดสินเข้ารอบกันในเลกที่สองในบ้านของพวกเขาเอง ในวันที่มีการเปลี่ยนผู้เล่นเกินครึ่งทีม และทำให้ศักยภาพของพวกเขาขาดหายไปจากเดิมอย่างชัดเจน
*การเปลี่ยนแปลงที่ทำให้เสียความสมดุล
อาร์เซนอล มีการเปลี่ยนทีมเกินครึ่งทีมจากทั้งการต้องการพักนักเตะ รวมถึงเรื่องของวความฟิตของนักเตะ และนั่นทำให้เกมนี้มีตัวสำรองหลายคนในเกมนี้ แม้จะซ้อมด้วยกันมาตลอด แต่การลงสนามจริงความคุ้นเคยก็ไม่เหมือนเดิม อาร์เซนอล มีปัญหาแบบนี้ทุกครั้งที่มีการหมุนเวียนทีม และเกมนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น อย่างไรก็ตามเกมนี้ก็ถือว่าทำได้ค่อนข้างดี ใช้เวลาในการปรับตัวไม่มากนักก็เริ่มสมดุลดีขึ้น
*หน้าเป้า “จำเป็น” ในวันที่เกมเปิดแลก
อาการบาดเจ็บของเหล่ากองหน้าอย่าง กาเบรียล เฆซุส และ เอ็ดดี้ เอนเคเธีย ไปจนถึง เลอันโดร ทรอตซาร์ ทำให้สุดท้ายเกมนี้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ที่แม้จะมีความวูบวาบอย่างชอตลากครึ่งสนามที่เกือบได้ประตู แต่นอกนั้นแทบไม่มีอะไรให้พูดถึงเท่าไร ยิ่งจังหวะกลางอากาศที่ไม่ใช่จุดเด่นของเขาเลย มีหลายครั้งที่พลาดโอกาสไป ก่อนที่ในช่วงท้ายเกมจะมีการปรับ ฟาบิโอ วิเอร่า มาเล่นในตำแหน่งนี้ด้วย ซึ่งก็ไม่ต่างกันเท่าไรนัก เมื่อหายไปจากเกมเลย
*แบ็คซ้ายอาร์เซนอล
ตำแหน่งนี้ของอาร์เซนอลมีความพิเศษกว่าตำแหน่งอื่นเพราะทีมมีการเซตระบบ Invert Fullback เอาไว้ในการตัดเข้ามาเล่นเข้ามาตรงกลางสนาม ซึ่ง โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ เล่นในลักษณะนี้ได้เด่นมากอย่างไรก็ตาม เมื่อเขาถูกเปลี่ยนออก ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ ก็ต้องปรับมาเล่นในลักษณะนี้ได้เช่นเดียวกัน กลายเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของทีมไปแล้ว
*ผลเสมอที่ไม่ได้เสียหายสำหรับปืนใหญ่
ในภาพรวมการได้ผลเสมอในเกมนี้ ไม่ได้เสียหายอะไรสำหรับทีมเยือน แม้จะไม่มีกฎประตูทีมเยือนอีกแล้ว แต่การไม่แพ้กลับออกไป และมีอีกหนึ่งเกมเหย้ารออยู่ เกมนี้พวกเขานับว่าคุ้มค่าเมื่อผ่านไปอีกหนึ่งเกม ได้ผลการแข่งขันไม่ได้เลวร้าย และได้พักนักเตะตัวหลักไปได้บ้าง จากเกมนี้ที่เห็นได้เลยว่านักเตะอาร์เซนอล มีอาการล้าออกมาให้เห็นกันแล้วช่วงท้ายเกม หลังต่อสู้กันมาอย่างหนักตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา