เดลี่ เมล์ สื่ออังกฤษ เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจของ อาร์เซน่อล ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทำให้พวกเขากลับมามีสถานะทางด้านการเงินที่แข็งแกร่งอีกครั้ง และสามารถทุ่มเงินได้เต็มที่ในเดือนมกราคม หรือซัมเมอร์หน้า หากพวกเขาต้องการ ในขณะที่หลายทีมกำลังดิ้นร้นกับกฏผลกำไรและความยั่งยืนของพรีเมียร์ลีก (PSR)
คีแรน แม็กไกวร์ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเงินกล่าวว่า: “ผมคิดว่าอาร์เซน่อลอยู่ในสถานะที่เข้มแข็ง นั่นทำให้พวกเขามีความยืดหยุ่นมากขึ้น ถ้าหากพวกเขาต้องการเซ็นสัญญาผู้เล่นใหม่ในเดือนมกราคม พวกเขาไม่ใช่หนึ่งในทีมที่ต้องมีความกังวล เช่นเดียวกับช่วงเดือนมิถุนายน 2025 อย่างที่เราได้เห็นหลายทีมในพรีเมียร์ลีก พยายามอย่างหนักในการขายนักเตะให้ทันก่อน 30 มิถุนายน เพราะสุ่มเสี่ยงกับการละเมิดกฏ PSR”
ส่วนหนึ่งมาจากการขายนักเตะที่อาร์เซน่อลขายนักเตะไปได้กว่า 100 ล้านปอนด์ จากการขาย เอมิล สมิธ โรว์ ให้ฟูแล่ม 35 ล้านปอนด์, เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ไปให้พาเลซ 30 ล้านปอนด์ และแอรอน แรมส์เดล 25 ล้านปอนด์
แม็คไกวร์เสริมว่า: “พวกเขาสามารถปล่อยผู้เล่นที่ไม่ได้เป็นผู้เล่นตัวจริงออกไป ค่าตัวที่ได้ก็ถือว่ามีความสมเหตุสมผล เหมือนกับที่พวกเขาปล่อยเอ็นเคเทียห์ ออกไปได้ 30 ล้านปอนด์ตามที่พวกเขาต้องการ”
พวกเขาแทบไม่เสียเงินในการเสริมทัพเลยในช่วงซัมเมอร์นี้ เมื่อเทียบระหว่างขาเข้า และขาออก แตกต่างจากปีก่อนหน้า ฤดูกาล 2021/22 อาร์เซน่อลขายนักเตะได้เพียง 20 ล้านปอนด์ แต่มีการเสริมทัพ 156 ล้านปอนด์ ฤดูกาล 2022/23 พวกเขาขายนักเตะ 58 ล้านปอนด์ ส่วนเสริมทัพมากถึง 197 ล้านปอนด์
ทำให้พวกเขาขาดดุลมาต่อเนื่องหลายปี เป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อซัมเมอร์ปีก่อน พวกเขาจึงไม่สามารถเซ็นสัญญากับ ดาบิด ราย่า มาได้ในทันที ต้องใช้วิธีการยืมตัว พ่วงออปชันซื้อขาด 27 ล้านปอนด์ ในช่วงซัมเมอร์นี้แทน
แม้ว่าจะเจอกับแรงกดดัน และเสียงวิจารณ์จากแฟนบอลบางส่วน กับการดำเนินธุรกิจในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมา ก็เป็นซัมเมอร์ที่น่าพอใจสำหรับอาร์เซน่อล พวกเขาได้อัพเกรดขุมกำลังเชิงลึกให้ดีขึ้นกว่าฤดูกาลที่แล้ว และสามารถขายนักเตะที่ไม่ใช่ผู้เล่นตัวหลัก และได้เงินกลับมาอย่างที่ควรจะเป็น