อาร์เซนอล เก็บชัยชนะที่สำคัญอีกนัดในฤดูกาลด้วยการบุกอัด เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0 ในเกมที่ อารอน แรมส์เดล กลายเป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ จากผลงานการเซฟประตูอันสุดยอด
หลังใช้ผู้เล่นสำรองและดาวรุ่งช่วยกันผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายคาราบาว คัพ ได้สำเร็จ มิเกล อาร์เตต้า กลับมาใช้งานชุดใหญ่เต็มสูบอีกครั้งในการเยือนรัง คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม
อาร์เตต้า เลือก 11 ตัวจริงจากเกมชนะ แอสตัน วิลล่า 3-1 ในสัปดาห์ก่อน ออกสตาร์ทพร้อมกันทั้งหมดเพราะทำผลงานได้ดีอยู่แล้ว โดยที่ เบน ไวท์ ซึ่งมีอาการป่วยเมื่อกลางสัปดาห์ ฟิตลงสนามได้ทันเวลา
ทีมปืนใหญ่เริ่มต้นเกมนี้ได้ดีมากๆ กับการออกนำตั้งแต่ 5 นาทีแรกจากทีเด็ดลูกตั้งเตะที่กลายเป็นอาวุธเด็ดของทีมในฤดูกาลนี้
บูคาโย่ ซาก้า ที่ลงเล่นนัดที่ 100 ให้กับทีมจากทุกรายการ เปิดเตะมุมให้ กาเบรียล มากัลเญส สอดขึ้นโขกเสาแรกก่อนสะบัดบอลเสียบเสาไกลสวยงาม
เป็นนัดที่ 3 ติดต่อกันแล้วที่ได้ประตูจากลูกตั้งเตะ โดยเริ่มจาก โธมัส ปาร์เตย์ โหม่งลูกเตะมุมในเกมกับ วิลล่า และ คาลั่ม แชมเบอร์ส ที่ลงสำรอง 23 วินาทีทำประตูจากลูกเตะมุมเช่นกัน (นิโกล่าส์ เปเป้ โหม่งชงให้) ในเกมคาราบาว คัพ เมื่อกลางสัปดาห์
ฤดูกาลที่แล้ว อาร์เซน่อล ได้ประตูจากลูกตั้งเตะที่รวมถึงจุดโทษเพียง 6 ประตูจากทุกรายการ แต่ฤดูกาลนี้ที่ผ่านมาราวหนึ่งใน 4 ของฤดูกาล แต่ได้ประตูจากลูกตั้งเตะไปแล้ว 6 ประตู
งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับ นิโกลัส โยแวร์ โค้ชลูกตั้งเตะคนใหม่ที่เพิ่งมาร่วมงานกับสโมสรในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยผู้ช่วยโค้ชชาวฝรั่งเศสคนนี้เคยทำงานกับ มิเกล อาร์เตต้า ที่ แมนฯ ซิตี้ มาก่อน
ได้ประตูจากลูกตั้งเตะอีกแล้ว
ประตูที่สองมาถึงเร็วภายในยี่สิบนาทีแรก จากการเล่นโต้กลับหลังตัดบอลได้หน้าเขตโทษ บูคาโย่ ซาก้า จ่ายให้ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ แต่งหาจังหวะยิงแต่โดนจิ้มก่อน ทว่าบอลเข้าทางปืน เอมิล สมิธ โรว์ วิ่งมายิงเน้นๆ ไม่พลาด
นี่คือประตูที่ 4 ของแข้งดาวรุ่งวัย 21 ปีจากการลงเล่น 7 นัดหลังสุด ตอกย้ำฟอร์มอันยอดเยี่ยมที่คาดกันว่าจะทำให้มีชื่อในทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เป็นครั้งแรกในเบรกทีมชาติเดือนหน้าที่จะถึงนี้
เลสเตอร์ เสียขบวนไม่น้อยหลังเสียไปสองประตู ทว่าก็ค่อยๆ ตั้งลำการเล่นของตัวเองจนเริ่มมีพื้นที่ได้ยิงหน้าเขตโทษ ทว่าโอกาสจะแจ้งสุดที่น่าจะได้ประตูตีไข่แตกก่อนจบครึ่งงแรกมาจากฟรีคิกของ เจมส์ แมดดิสัน ที่ใครเห็นก็ต้องบอกว่าเป็นประตูแน่นอน
อาร์เตต้า เองก็คิดเช่นนั้น “ปฏิกิริยาของผมที่เห็นบอลออกจากเท้า แมดดิสัน ผมโพล่งออกมาว่า ‘ประตู’ ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันเหลือเชื่อ สุดยอดโมเมนต์และจังหวะสุดเป๊ะ”
ซูเปอร์เซฟนี้ของ แรมส์เดล สุดยอดจริงๆ ทั้งความยากในการบินปัดบอลและช่วงเวลาที่ทำให้ครึ่งแรกจบที่สกอร์นำ 2-0 ซึ่งหากเป็น 2-1 โมเมนตัมในครึ่งหลังน่าจะอยู่ฝั่ง เลสเตอร์ เต็มๆ
ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ตำนานผู้รักษาประตูของ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงกับทวีตชมนายทวารชาวอังกฤษว่า “เป็นการเซฟที่ดีที่สุดที่เห็นในรอบหลายปีจาก แรมส์เดล”
45 นาทีหลัง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ปรับเกมรุกเพื่อเจาะด้านข้างด้วยการส่งตัวริมเส้นทั้ง อเดโมล่า ลุคแมน และ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ลงสนาม พร้อมกับถอด เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ และ ดาเนี่ยล อาร์มาตีย์ ออกไปพัก
ประตูสู่ทีมชาติชุดใหญ่ของ สมิธ โรว์ อยู่แค่เอื้อม
เกมของทัพจิ้งจอกดีขึ้นชัดเจน ตัวริมเส้นสองฝั่งสามารถขึ้นเกมด้านกว้างได้โดยเฉพาะ ฮาร์วีย์ บาร์นส์ ทำให้เกมรับ อาร์เซน่อล ต้องถ่างออกเพื่อรับมือ และทำให้ตรงกลางมีพื้นที่สำหรับผู้เล่นคนอื่นของเจ้าถิ่นได้สอดขึ้นไปทำประตู
ในครึ่งแรก เลสเตอร์ มีโอกาสได้ง้างยิงเพียง 5 ครั้ง แต่ครึ่งหลังมีโอกาสถึง 11 ครั้ง ทว่าไม่สามารถส่งบอลผ่านมือ แรมส์เดล ได้เลย
นอกจากเซฟระดับโลกป้องกันฟรีคิกในครึ่งแรกแล้ว ตลอดครึ่งหลัง แรมส์เดล ก็ปฏิเสธทุกจังหวะลุ้นประตูของเจ้าถิ่นเอาไว้ได้หมด ไม่ว่าจะยิงจ่อๆ หรือหลุดไปยิงมุมแคบ ก็จัดการได้หมด
อารอน แรมส์เดล เซฟไปทั้งหมด 8 ครั้ง กลายเป็นสถิติมากสุดของผู้รักษาประตูที่เซฟได้ในเกมเยือนของพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้
อาร์เตต้า กล่าวชมผลงานของ แรมส์เดล หลังเกมว่า “เราเอาเงินลงทุนกับพรสวรรค์และคนที่เราเชื่อว่าจะกลายเป็นสิ่งยอดเยี่ยมสำหรับอนาคตของสโมสร”
“อารอน มีฟอร์มการเล่นได้ใจจริงๆ เขาเซฟเหลือเชื่อเพื่อช่วยทีมด้วย และนี่เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น”
หลังได้สองประตูนำเร็ว ช่วงเวลาที่เหลือของ อาร์เซน่อล ได้ทดสอบเกมรับเป็นส่วนใหญ่เพราะ เลสเตอร์ ทุ่มแบบหมดหน้าตักเพื่อทำประตูคืนให้ได้ แต่ทุกโอกาสก็ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นประตูได้
ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ชื่นชมผลงานของ แรมส์เดล
อาร์เซนอล จึงเป็นฝ่ายบุกชนะ เลสเตอร์ ถึง คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ได้ 3 นัดติดต่อกันในทุกรายการ และเก็บอีก 3 คะแนนสำคัญที่ทำให้สถานการณ์ในตารางคะแนนดีขึ้นมาก
อาร์เตต้า พาทีมไร้พ่าย 9 นัดติดต่อกันจากทุกรายการหรือนับตั้งแต่เบรกทีมชาติเดือนกันยายนกลับมาแข่งอีกครั้ง เป็นการชนะ 7 นัด เสมอ 2 นัด พร้อมกับเก็บไปได้ 6 คลีนชีต
จากทีมที่จมบ๊วยของตาราง ไม่มีคะแนนและยิงประตูไม่ได้เลยก่อนเบรกทีมชาติเดือนกันยายน กลายเป็นทีมที่ตอนนี้ตามหลัง “แชมป์เกา” แมนฯ ซิตี้ เพียง 3 คะแนนเท่านั้น
ใครจะเชื่อ!!
ขอบคุณบทความ คอลัมนิสต์ “โรงเตี๊ยมลูกหนัง โดย ทอมมี่ ท่ามะกา”