ก่อนที่อาร์เซน่อลจะบินไปมิลาน เพื่อลงเล่นกับอินเตอร์ ใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา เอดู กาสปาร์ ได้เข้าไปอำลานักเตะและทีมงานสต๊าฟโค้ชของอาร์เซน่อล กับวันสุดท้ายในฐานะผู้อำนวยการกีฬาของอาร์เซน่อล
สำหรับแฟนบอล การตัดสินใจลาออกของเอดู เป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน แต่สำหรับผู้บริหารของ อาร์เซน่อล การตัดสินใจดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่น่าประหลาดใจ
ชื่อเสียงของเอดู เติบโตขึ้นอย่างมากกับช่วงเวลา 5 ปีที่ทำงานให้กอาร์เซน่อล นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้รับความสนใจจากสโมสรอื่น ทางอาร์เซน่อลก็ทราบถึงความทะเยอะทะยานของเอดู และได้มีการหารือเกี่ยวกับอนาคตของเขาในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนที่จะมีข่าวการลาออกของเขาออกมา พวกเขาหวังว่าเอดูจะอยู่กับสโมสรต่อไป
สำหรับทีมงานคัดสรรของเอดู รวมถึงนักเตะอาร์เซน่อล การตัดสินใจนี้เป็นเรื่องน่าตกใจ และหลายคนได้ทราบข่าวจากสื่อ เอดู ได้มีการลาพักร้อนสองสัปดาห์ เพื่อไปทำธุระส่วนตัวที่ประเทศบราซิล ในเวลานั้นก็เริ่มมีข่าวลือแพร่สะพัดออกมาภายในทีมงาน แต่เขาก็กลับมาปรากฏตัวอีกครั้งในเกมส์ที่พบกับนิวคาสเซิ่ล
แต่เพียง 48 ชั่วโมงต่อมา อาร์เซน่อล กำลังร่างอีเมลภายในเพื่อแจ้งทุกฝ่ายว่าเอดูกำลังจะลาออกจากตำแหน่ง หลังจากนั้นไม่นานก็มีการแถลงอย่างเป็นทางการจากสโมสร
แม้ว่าจะลาออกไปแล้ว แต่เอดู จะต้องอยู่ในช่วง Garden Leave ไปอีก 6 เดือนต่อจากนี้ หรือภายความว่าเขาจะยังไม่สามารถไปทำงานที่อื่น โดยเฉพาะองค์กรคู่แข่ง หรือองค์กรที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน แต่ก็มีการคาดการณ์ว่า เอดู จะเข้าไปทำงานให้กับ เอวานเจรอส มารินาคิส เจ้าของสโมสรน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, โอลิมเปียกอส และริโอ อาฟร์ แม้ดีลยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แต่เชื่อว่าทุกฝ่ายจะสามารถตกลงกันได้ในท้ายที่สุด
อาร์เซน่อล ต้องมองไปยังอนาคต และเริ่มกระบวนการคัดสรรบุคลากรที่จะเข้ามาทำหน้าที่แทนเอดู สโมสรมีความมุ่งมั่นที่จะแต่งตั้งผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ที่จะเข้ามาทำงานร่วมกับ มิเกล อาร์เตต้า แม้ว่าจะยังไม่มีการกำหนดบทบาทที่แน่นอน
ตอนที่เอดู เลื่อนตำแหน่งจากผู้อำนวยการเทคนิค มาเป็นผู้อำนวยการด้านกีฬาในปี 2022 เขารับผิดชอบทั้งทีมชาติ ทีมหญิง และทีมเยาวชน แต่ขณะนี้ดูเหมือนอาร์เซน่อลกำลังจะพิจารณาที่จะดำเนินการในรูปแบบเดิม โดยผู้อำนวยการกีฬาจะเน้นไปที่ทีมชาติเป็นหลัก
การอำลาของเอดู ดูเหมือนจะเป็นเรื่องกระทันหัน แต่มารินาคิส ก็คอยติดตามเขามาสักระยะแล้ว ทั้งเขาและเอดูเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน พวกเขามีความร่วมมือในโอนย้ายนักเตะ กับการส่ง แมตต์ เทอร์เนอร์ และนูโน ตาวาเรซ ไปให้ฟอเรสต์ ในปี 2023 เนื่องจากอาร์เซน่อลต้องการปล่อยผู้เล่นออกจากทีม รวมถึงช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ที่ทีมจ้าวป่ามีข่าวผัวพันกับทั้ง เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ และแอรอน แรมส์เดล
เอดู เคยไปร่วมงานปาร์ตี้ฉลองวันเกิดของ มารินาคิส รวมถึงการเลี้ยงรับรองเอดู พร้อมด้วยเอเยนต์ส่วนตัวของเขา เคีย ซูรับเซียน ในเกมส์รอบชิงชนะเลิศยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้วด้วย
ฟอเรสต์เองไม่มีผู้บริหารระดับสูง นับตั้งแต่ แดน เมอร์ฟี่ ลาออกไปเมื่อเกือบสองปีก่อน มารินาคิส กำลังมองหาใครสักคนที่มีความสามารถรอบด้าน และจะเป็นซีอีโอที่มีความรู้ด้านฟุตบอล ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ และความเฉียบแหลมทางด้านธุรกิจ เพื่อเป็นผู้นำในเครือข่ายฟุตบอลของเขา สำหรับเอดู บทบาทซีอีโอ เป็นสิ่งที่เขาสนใจมานานแล้ว ก่อนที่เขาจะมาเป็นผู้อำนวยการกีฬา เขาเป็นนักธุรกิจมาก่อน ธุรกิจแกรของเขา หลังจากเลิกเล่น คือการทำงบริษัทปูพื้นในประเทศบราซิล
เอดู ตั้งรกรากอยู่ในลอนดอน และบทบาทใหม่ของเขากับทางฟอเรสต์ จะทำให้เขาสามารถอยู่ในลอนดอนต่อไป และการมีส่วนร่วมในแต่ละวันกับเรื่องล็กๆ น้อยๆ จะลดลง และสามารถควบคุมดูแลจากระยะไกลได้ และรวมถึงรายได้ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยปกติแล้ว ผู้อำนวยการกีฬาจะมีรายได้น้อยกว่าผู้จัดการทีมค่อนข้างมาก แต่หน้าที่การงานใหม่ เอดู จะได้รับเงินพอๆ กับผู้จัดการทีมในพรีเมียร์ลีกเลย
อีกหนึ่งเหตุผลนอกเหนือจากความทะเยอะทะยานของเขาแล้ว เขารู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นกับข้อจำกัดบางประการที่อาร์เซน่อล เอดูคาดหวังว่าเขาจะได้รับอำนาจและอิสระมากขึ้นในการตัดสินใจเซ็นสัญญานักเตะ ที่อาร์เซน่อล มีการกำกับดูและและกระบวนการที่ชัดเจนในทุกเรื่องเกี่ยวกับการโอนย้ายนักเตะ
อย่างไรก็ตาม เอดูต้องขออนุมัติจากคณะกรรมการในเรื่องเซ็นสัญญานักเตะ นั่นหมายความว่า บางอย่างอาจจะยืดเยื้อ เช่นในกรณีตอนเซ็นสัญญากับ ริคาร์โด้ คาลาฟิออรี มาจากโบโลญญ่า ที่เอดูสามารถตกลงเรื่องค่าตัวกับต้นสังกัดของนักเตะได้แล้ว แต่บอร์ดบริหารของอาร์เซน่อล ต้องการให้มีการปล่อยผู้เล่นออกไปก่อน เพื่อสมดุลในทางบัญชี
ด้านความสัมพันธ์ระหว่างเอดูกับอาร์เตต้า พวกเขามีความสัมพันธ์ส่วนตัวที่ยอดเยี่ยมมาโดยตลอด แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สมาชิกในทีมสต๊าฟโค้ชของอาร์เซน่อล ดูจะมีอิทธิพลมากขึ้นในการสรรหาผู้เล่นของทีมชุดใหญ่ เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในตอนซัมเมอร์ เมื่ออาร์เซน่อลต้องเผชิญหน้ากับความซับซ้อนในการเซ็นสัญญากับ โจน การ์เซีย ในช่วง 48 ชั่วโมงสุดท้ายของตลาดนักเตะ เนื่องจากทาง อิกนากี้ คาญ่า โค้ชผู้รักษาประตูยืนกรานว่าต้องเป็นโจน การ์เซีย ที่จะมาเป็นมือสองแทนแรมส์เดล ที่ย้ายไปอยู่กับเซาแธมป์ตัน
เรื่องดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับเอดู และเขาคลี่คลายปัญหาด้วยการไปเซ็นสัญญา เนโต้ ผู้รักษาประตูชาวบราซิเลี่ยนมาจากบอร์นมัธแบบยืมตัว ในบทบาทที่เขาจะได้รับจาก มารินาคิส เอดู จะสามารถติดต่อได้โดยตรงกับทางเจ้าของสสโมสร เขาจะมีอำนาจการตัดสินใจที่มากขึ้น
อาร์เซน่อล รู้สึกว่าพวกเขาพร้อมรับมือกับการจากไปของเอดู แต่จังหวะเวลานั้นดูไม่เหมาะสมสักเท่าไรนัก เมื่อช่วงซัมเมอร์ วินัย เวสเกรมตัม ได้ลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของสโมสร ภายในเวลาไม่กี่เดือนพวกเขาเสียทั้งซีอีโอ และผอ.กีฬา ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายมากๆ
แล้วอีกอย่างคือมันเกิดขึ้นในช่วงกลางฤดูกาล และอีกสองเดือนจะเข้าสู่ตลาดนักเตะรอบสองเดือนมกราคม ในสัปดาห์หน้า มิเกล อาร์เตต้า และทิม ลูอิส รองประธานสโมสร จะพบกับเจ้าของทีม สแตน ครองกี้ เพื่อร่างแผนการสร้างทีมในปี 2025 ซึ่งเดิมเอดู จะมีบทบาทสำคัญในการหารือกันเรื่องนี้
ดังนั้นคาดว่า เจสัน ไอโต หัวหน้าทีมคัดสรรนักเตะจะเข้ามาทำหน้าที่แทน โดยเขาเป็มมือขวาของเอดู มาตั้งแต่เมื่อปีก่อน ซึ่งแผนกคัดสรรนักเตะ เป็นมรดกที่เอดูทิ้งเอาไว้ มันเป็นงานใหญ่งานแรกของเขาที่อาร์เซน่อล ด้วยการรื้อโครงสร้างทีมแมวมองของทีมใหม่ทั้งหมด
ไอโต จะขึ้นมาทำหน้าที่แทนเอดูชั่วคราว ในระหว่างที่อาร์เซน่อล กำลังพิจารณาผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ ทางไอโต จะสานต่อในเรื่องแผนงานการสร้างทีม รวมถึงการคัดสรรผู้จัดการทีมใหม่คนใหม่ของทีมฟุตบอลหญิงของอาร์เซน่อลด้วย
ส่วนการสรรหาผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ของอาร์เซน่อล ภารกิจแรกคือการระบุว่าพวกเขาต้องการผู้อำนวยการแบบใด ที่จะแทนเอดู พวกเขาต้องการผู้บริหาร หรือผู้ที่มีความรู้ทางด้านฟุตบอล อาร์เตต้า จะมีบทบาทสำคัญในการพูดคุยเรื่องดังกล่าง ซึ่งเป็นเรื่องน่าแปลกใจสำหรับบางคน โดยตามปกติแล้ว ผู้อำนวยการกีฬาจะอยู่เหนือผู้จัดการทีม
อยางไรก็ตาม อาร์เซ่อลพิจารณาบทบาทให้ปฏิบัติงานในระดับเดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่างผู้จัดการทีมและผู้อำนวยการกีฬามีความสำคัญอย่างยิ่ง เอดูและอาร์เตต้า มีเคมีที่เข้ากัน อาร์เซน่อลต้องการคงความสัมพันธ์ในการทำงานเชิงบวกเอาไว้ พวกเขาไม่ได้ต้องการจ้างเจ้านายใหม่ให้กับอาร์เตต้า แต่พวกเขาต้องการหาหุ้นส่วนคนใหม่ให้กับอาร์เตต้า ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอยู่พอสมควร
อาร์เซน่อล รู้สึกขอบคุณกับสิ่งที่เอดูทำให้สโมสร เขาช่วยเปลี่ยนแปลงสโมสรครั้งใหญ่ อาร์เตต้า ก็รู้สึกถึงความสูญเสีย เขากับเอดูมีการคุยกันตลอดในการทำงานที่ลอนดอน โคลนี่ย์ อย่างไรก็ตามอาร์เตต้า จะมองไปข้างหน้า
“วิสัยทัศน์ซึ่งเริ่มต้นจากเจ้าของนั้นชัดเจนและทะเยอะทะยานอยางมาก มันจะดำเนินต่อไป เรามีทีมผู้นำที่แข็งแกร่ง มีแพชชั่น เราจะไม่หยุดอยู่เพียงจุดที่เราอยู่ตอนนี้ เราเดินหน้าต่อไป เรากล่าวขอบคุณ และเดินหน้าต่อ เพราะนั่นคือความจริงในอุตสาหกรรมของเรา”