เกือบสองปีเต็มในตำแหน่งกุนซือ อาร์เซน่อล มิเกล อาร์เตต้า ผ่านการคุมทีมครบ 100 นัดที่เต็มไปด้วยความทรงจำและประสบการณ์มากมาย
อาร์เตต้า คุมทีมนัดที่ 100 ในเกมที่ “ปืนใหญ่” เปิดบ้านเอาชนะ วัตฟอร์ด 1-0 คว้า 3 คะแนนสุดสำคัญเอาไว้ได้ พร้อมพาทีมขยับขึ้นไปอยู่ที่ 5 ของตาราง และยืดสถิติไม่แพ้เป็นนัดที่ 10 ตัดติดต่อกันจากทุกรายการ
กุนซือชาวสแปนิชเข้ารับตำแหน่งที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ในวันที่ 22 ธันวาคม ก่อนประเดิมคุมทีมบุกเสมอ บอร์นมัธ 1-1 ในเกมบ็อกซิ่งเดย์
ช่วงเวลา 23 เดือนที่ผ่านมา อาร์เตต้า ผ่านเหตุการณ์ทั้งดีและร้ายมากมาย อีกทั้งเผชิญหน้ากับกระแสกดดันให้ถูกปลดออกจากตำแหน่งหลายครั้ง
ช่วงแรกที่คุมทีม กุนซือหนุ่มวัย 39 ปี พาทีมผงาดคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ มาครองได้ในปี 2020 ก่อนต่อยอดด้วยตำแหน่งแชมป์คอมมิวนิตี้ ชิลด์
โมเมนตัมของทีมเหมือนจะไปได้สวยเมื่อเปิดฤดูกาลด้วยการบุกชนะ ฟูแล่ม 3-0 จนรั้งตำแหน่งจ่าฝูง ทว่าหลังจากนั้นทีมแพ้ถึง 8 จาก 13 นัดจนทำให้อันดับร่วงไปอยู่ครึ่งล่างของตาราง
แม้ทีมจะกลับมาทำผลงานได้ดีตั้งแต่ช่วงบ็อกซิ่งเดย์จนถึงจบฤดูกาล แต่ก็มีหลายนัดที่สะดุดจนทำให้ทีมได้เพียงอันดับ 8 ของตาราง ไม่สามารถคว้าตั๋วยุโรปได้ ขณะที่บอลถ้วยรายการต่างๆ ก็ไปไม่ถึงฝั่งฝัน
เอฟเอ คัพ ที่เป็นแชมป์เก่าก็พลาดท่าตกรอบ 4 จากการแพ้ เซาธ์แฮมป์ตัน
ลีก คัพ ตกรอบคาบ้านในรอบ 8 ทีมสุดท้ายจากน้ำมือของ แมนฯ ซิตี้
ส่วนยูโรปา ลีก ที่เป็นความหวังสูงสุดได้ลุ้นกลับไปเล่นในถ้วยใหญ่แชมเปี้ยนส์ ลีก ก็พลาดท่าในรอบตัดเชือกต่อ บียาร์เรอัล ทีมที่คุมทัพมาโดย อูไน เอเมรี่ อดีตกุนซือของทีมที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งก่อนการมาของ อาร์เตต้า นั่นเอง
นั่นทำให้ อาร์เซน่อล ไม่ได้ไปเล่นถ้วยยุโรปได้เลยในรอบ 25 ปี ซึ่งนับเป็นฤดูกาลที่น่าผิดหวังอย่างแท้จริง
กระแสแฟนบอลเรียกร้องให้สโมสรปลด มิเกล อาร์เตต้า ออกจากตำแหน่ง ทว่าบอร์ดบริหารของทีมก็ยังคงให้ความไว้วางใจพร้อมทั้งสนับสนุนเงินทุนเสริมทัพในซัมเมอร์ล่าสุดอีกราว 150 ล้านปอนด์ ซึ่งมากกว่าทุกทีมในลีก
สถิติดีกว่าเจ้านาย แต่ยังต้องพิสูจนตัวเองอีกมาก
อาร์เตต้า เจอกระแสต่อต้านหนักหน่วงอีกรอบหลังทีมออกสตาร์ทได้น่าผิดหวังแพ้รวดตลอด 3 นัดแรก ไม่มีคะแนน และไม่สามารถทำประตูได้เลย ทีมหล่นไปอยู่บ๊วยของตารางอย่างน่าอนาถ
สโมสรยังใจแข็งหนุนหลังต่อไป ขณะที่ผลงานในสนามเริ่มกลับมาเป็นรูปเป็นร่างอีกครั้งหลังหมดช่วงเบรกทีมชาติของเดือนกันยายน
ทีมปืนใหญ่เก็บชัยชนะได้ตลอด 3 นัดในลีกจนทำให้ อาร์เตต้า ได้รับเลือกให้ครองตำแหน่งกุนซือยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีกประจำเดือนกันยายน
และล่าสุดก่อนเบรกทีมชาติอีกรอบในเดือนนี้ อาร์เซน่อล ก็ทิ้งทวนด้วยชัยชนะเหนือ วัตฟอร์ด ที่ทำให้ผลงานของทีมช่วงสองเดือนหลังสุดชนะได้ถึง 8 นัดจาก 10 นัดในทุกรายการ
จากอันดับบ๊วยของตาราง พุ่งพรวดมาอยู่ที่ 5 เกมรับที่เคยหละหลวมเสียประตูง่าย ก็แข็งแกร่ง เหนียวแน่นมากขึ้น และเริ่มได้ชุดตัวจริงที่ลงตัวเกือบทุกตำแหน่ง ขณะที่สำรองรวมถึงดาวรุ่งก็สามารถทดแทนตัวหลักที่ขาดหายไปได้
ตำแหน่งกุนซือที่เคยสั่นคลอนและเคยเป็นเต็งหนึ่งจะถูกปลดในต้นฤดูกาล กลายเป็นมั่นคงมากขึ้น ตรงกันข้ามกับกุนซือคนอื่นที่ชะตาขาดถูกปลดไปก่อนไม่ว่าเป็น ซิสโก้ มูนญอซ ของ วัตฟอร์ด, นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต ของ สเปอร์ส, สตีฟ บรูซ ของ นิวคาสเซิ่ล, ดาเนียล ฟาร์เค่ ของ นอริช ซิตี้ และ ดีน สมิธ ของ แอสตัน วิลล่า
จาก 100 นัดในตำแหน่งกุนซือ Arsenal มิเกล อาร์เตต้า พาทีมชนะได้ 54 นัด เป็นสถิติที่ดีกว่า อาร์แซน เวนเกอร์ เลยทีเดียว โดยตำนานกุนซือชาวฝรั่งเศสคุมทีมชนะได้ 51 นัดใน 100 นัดแรก
ส่วนกุนซือที่ทำผลงานดีสุดตลอดกาลใน 100 นัดแรกคือ จอร์จ เกรแฮม อดีตผู้จัดการทีมชาวสกอตแลนด์ที่เคยคุมทีมระหว่างปี 1986 ถึง 1995 ที่พาทีมชนะได้ 56 นัด
แม้สถิติตรงนี้จะเหนือกว่าเจ้านายเก่า แต่ อาร์เตต้า ก็รู้ดีว่ายังมีอะไรให้เรียนรู้อีกมากมายและต้องพิสูจน์ตัวเองอีกเยอะ โดยกล่าวว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มาคุมทีมที่นี่ แต่ผมก็ยังเด็กมากในงานด้านโค้ช”
ช่วงดีสุดกับทีมคือแชมป์เอฟเอ คัพ
ส่วนระบบการเล่นมีการปรับเปลี่ยนมาแทบทุกรูปแบบ อาร์เตต้า เริ่มต้น 15 นัดแรกด้วยระบบ 4-2-3-1 จากนั้นช่วงล็อกดาวน์หนีโควิด-19 ปรับเป็น 4-3-3 ทว่าก็ใช้ได้ไม่กี่นัด จึงเปลี่ยนเป็น 3-4-3 ในช่วงท้ายฤดูกาลที่ได้ผลคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ มาครองในปี 2020
อาร์เตต้า ต้องการเล่นระบบ 4-3-3 แต่คุณภาพตัวผู้เล่นไม่เอื้ออำนวย ทำให้เขาต้องปรับระบบตามทรัพยากรที่มีและหลายสัปดาห์หลังเริ่มลงตัวกับระบบเบสิก 4-4-2 ที่คล้าย 4-4-1-1 ด้วยการมี อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ เล่นคู่กับ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ในแดนหน้า และบางจังหวะ “ลากา” ก็ถอยลงต่ำเป็นตัวปั้นเกมอยู่ข้างหลัง “โอบา”
11 ผู้เล่นตัวจริงในเกมแรกเมื่อเกือบสองปีก่อนมีแข้งอายุต่ำกว่า 25 ปีเพียง 4 รายคือ รีสส์ เนลสัน, ลูคัส ตอร์เรร่า, เอนส์ลีย์ เมทแลนด์-ไนล์ส และ คาโย่ ซาก้า ที่เล่นตำแหน่งแบ็กซ้าย
ส่วน 11 ตัวจริงนัดล่าสุดมีอายุเกิน 25 ปีเพียง 2 คนคือคู่หัวหอก โอบาเมย็อง กับ ลากาแซ็ตต์
100 นัดผ่านไปของ อาร์เตต้า มีการเปลี่ยนแปลงเกิดในทีมเกิดขึ้นมากมาย เช่นเดียวกับตัว อาร์เตต้า เองที่ตอนรับงานวันแรกคงไม่กล้าฟันธงว่าจะอยู่ในตำแหน่งจนผ่านหลักร้อยนัดแรกได้แน่นอน
การคุมทีมครบ 100 นัดกับสโมสรเดียวไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นได้กับผู้จัดการทีมทุกคนโดยเฉพาะกับยุคปัจจุบันที่ทุกทีมต่างต้องการความสำเร็จที่รวดเร็วและมีความอดทนต่อการทำงานของกุนซือค่อนข้างน้อย
อาร์เตต้า ที่จับงานคุมทีมเต็มตัวครั้งแรก สามารถฝ่ามรสุมร่วมกับ อาร์เซนอล จนถึงหนึ่งร้อยนัดได้ก็อว่าไม่ธรรมดา และช่วงเวลาทั้งสุขและทุกข์ที่ผ่านมาก็คือประสบการณ์ที่จะทำให้เขาแข็งแกร่งมากขึ้นในเส้นทางโค้ช
เป็นเส้นทางที่ยาวไกลและต้องพิสูจน์ผลงานอีกมากก่อนจะได้รับการยกย่องว่าประสบความสำเร็จในอาชีพนี้
ขอบคุณบทความ คอลัมนิสต์ “โรงเตี๊ยมลูกหนัง โดย ทอมมี่ ท่ามะกา”